เอ็กโก กรุ๊ป เผยปี’65 อัดงบ 3 หมื่นล้านบาท รุกพลังงานหมุนเวียน

วันที่ 3 มีนาคม 2565 นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่าในปี 2565 นี้ เอ็กโก กรุ๊ป ได้เตรียมงบประมาณลงทุนกว่า 30,000 ล้านบาท เพื่อขยายการลงทุนรวมถึงแสวงหาโอกาสทางธุรกิจ โดยแบ่งเป็นลงทุนในโครงการเดิม 8,000 ล้านบาท และขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่

          ธุรกิจเชื้อเพลิงและสาธารณูปโภค รวมทั้งการต่อยอดธุรกิจหลักด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีพลังงานเพิ่มกำลังผลิตใหม่อีก 1,000 เมกะวัตต์ ในปีนี้ ซึ่งจะใช้งบประมาณ 22,000 ล้านบาท โดยจะมีการหาโอกาสการลงทุนทั่วโลก โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาหลายรายในหลายประเทศ เพื่อให้มีโครงการใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มในพอร์ตฟอลิโอ

          ทั้งนี้ คาดว่าจะส่งผลให้บริษัทมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันผลประกอบการในปี 2565 จะมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นตามการรับรู้รายได้จากการดำเนินงานแบบเต็มปีจากโรงไฟฟ้า “ลินเดน โคเจน” และการลงทุนใน “เอเพ็กซ์” และการรับรู้รายได้จากโครงการใหม่ 3 โครงการ ที่จะเปิดดำเนินการและเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในปี 2565 ได้แก่

          โครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โรงไฟฟ้า “น้ำเทิน 1” ใน สปป.ลาว รวมถึงการทยอยเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้า “หยุนหลิน” ในไต้หวัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสมดุล ในพอร์ตโฟลิโอและจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว

          อย่างไรก็ตามปัจจุบันเอ็กโก กรุ๊ป มีกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรวม 1,364 เมกะวัตต์ และได้ต่อยอดความสำเร็จผ่านการถือหุ้น 17.46% ใน “เอเพ็กซ์ คลีน เอ็นเนอร์ยี โฮลดิ้ง” บริษัทชั้นนำด้านการพัฒนาโครงการพลังงานสะอาดขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา หลังจากเอ็กโก กรุ๊ป เข้าไปถือหุ้นตั้งแต่ปลายปี 2564 เป็นต้นมา เอเพ็กซ์ได้จำหน่ายโครงการพลังงานลมไปแล้ว 2 โครงการ กำลังผลิต 496 เมกะวัตต์

          ทั้งนี้ ในปี 2564 เอ็กโก กรุ๊ป รับรู้กำไรจากการดำเนินงานของเอเพ็กซ์ จำนวน 435 ล้านบาท ปัจจุบันเอเพ็กซ์ มีโครงการพลังงานสะอาดที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง คิดเป็นกำลังผลิตประมาณ 492 เมกะวัตต์ นอกจากนั้น ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาอีกกว่า 42,000 เมกะวัตต์

          นอกจากนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ได้ร่วมกับพันธมิตร และ กฟผ. ศึกษาและพัฒนา “การผลิตพลังงานไฟฟ้าจากไฮโดรเจน ด้วยเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงชนิดออกไซด์แบบแข็ง (SOFC) และเทคโนโลยีแยกน้ำด้วยไฟฟ้า (SOEC)” ซึ่งนับเป็นเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าแห่งอนาคต ด้วยจุดเด่นด้านการติดตั้งที่ง่ายและยืดหยุ่น การผลิตไฟฟ้าที่สม่ำเสมอและเชื่อถือได้

          รวมทั้งมีการปลดปล่อยมลพิษทางอากาศและน้ำที่ต่ำมากจนเกือบจะเป็นศูนย์ จึงเป็นการปิดจุดอ่อนของการผลิตไฟฟ้าด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิลแบบดั้งเดิมและพลังงานหมุนเวียน โดยปัจจุบันมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีนี้แล้วในประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น อินเดีย และ เกาหลีใต้ รวมกำลังผลิตประมาณ 600 เมกะวัตต์

          ส่วนความคืบหน้าการลงมือกับ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) ดำเนินงานโครงการนิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง ในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ว่าปัจจุบันอยู่ระหว่างนำสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของพื้นที่มาทำแผนการตลาดเพื่อใช้ดึงดูดนักลงทุนในอนาคต ควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก

          สำหรับ ความคืบหน้าแผนนำเข้าก๊าซธรรมชาติ (LNG) จากสถานการณ์ราคาก๊าซธรรมชาติเหลวในตลาดจร หรือ Spot LNG ในปลายปี 2564 ถึงต้นปี 2565 อยู่ระดับสูงมาก ทำให้บริษัทฯ ต้องชะลอแผนการนำเข้าก๊าซ LNG เพราะดูจากราคา Spot LNG แล้วยังเป็นราคาสูงมาก และความตึงเครียดรัสเซีย ยูเครน ไม่มีผลต่อการดำเนินงานทางตรงเนื่อง

          อย่างไรก็ดี ราคาต้นทุนพลังงานปัจจุบันยอมรับว่าอาจจะส่งต่อไปยังค่าไฟฟ้าของผู้บริโภค  ซึ่งตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับรัฐในแต่ละประเทศ มีเพียงร้อยละ 2 ของกำลังผลิตของเอ็กโก้ บริษัทอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ราคาพลังงานที่แพงขึ้นก็ไม่ได้กระทบต่อดีลธุรกิจที่กำลังเจรจาขยายกำลังผลิตแต่อย่างใด

ที่มา : : prachachat.net